วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ดอกไม้ประจำจังหวัดกระบี่

ดอกไม้ประจำจังหวัดกระบี่
ชื่อดอกไม้
ดอกทุ้งฟ้า
ชื่อสามัญ
-
ชื่อวิทยาศาสตร์
Alstonia macrophylla Wall.
วงศ์
APOCYNACEAE
ชื่ออื่น
ทุ้งฟ้าไก่, ตีนเทียน, พวมพร้าว
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ยืนต้น สูง 15-25 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เปลือกสีขาวอมเทา มีน้ำยางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงรอบข้อ ข้อละ 3-4 ใบ แผ่นใบรูปหอกกลับ กว้าง 3-8 ซม. ยาว 10-30 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลม ท้องใบมีคราบสีขาว หลังใบสีขาว ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่งจำนวนมาก กลีบดอกสีขาวหรือขาวอมเหลืองเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ออกดอกระหว่าง เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
การขยายพันธุ์
โดยการเพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม
เป็นไม้ที่ต้องการความชื้นมาก เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ระบายน้ำได้ดีในภาคไต้
รองเท้านารีเหลืองกระบี่ ดอกไม้ประจำจังหวัดกระบี่- ชื่อทางวิทยาศาสตร์ :Paphiopedilum eexul (Ridl.) Rolfe- สกุลย่อย : Paphiopedilum- หมู่ Paphiopedilum - จำนวนโครโมโซม 2n = 26- ถิ่นกำเนิด มีการกระจายพันธุ์แถบชายฝั่งตะวันออก และตะวันตกทางภาคใต้ของไทย เช่น จังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ต ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 50 เมตร- ลักษณะทั่วไป มีการเจริญเติบโตแบบพืชอาศัยบนดินหรือตามซอกผาหิน ต้น มีพุ่มใบขนาด 30 - 35 เซนติเมตร
- ใบ รูปแถบ กว้าง 3 - 3.5 เซนติเมตร ยาว 30 - 35 เซนติเมตร แผ่นใบหนาสีเขียวเป็นมัน ไม่มีลาย- ดอก เป็นดอกเดี่ยว ก้านดอกสีเขียว ยาว 13 - 15 เซนติเมตร และมีขน สั้นสีม่วงแดงปกคลุม เมื่อดอกบานเต็มที่มีขนาด 6 - 6.5 เซนติเมตร กลีบเป็นมันงุ้มด้านหน้า กลีบนอกบนมีสีขาว กึ่งกลางมีสีเหลืองอมเขียวและแต้มสีน้ำตาลเข้ม กลีบนอกล่างขนาดใกล้เคียงกับกลีบนอกบน แต่มีสีเขียว กลีบดอกสีเหลืองอมน้ำตาล กึ่งกลางกลีบมีเส้นสีน้ำตาลเรื่อ โคนกลีบมีแต้มและขนยาวสีสีน้ำตาลเข้มปกคลุม กระเป๋าสีเหลืองอมน้ำตาล โล่สีเหลือง รูปทรงคล้ายรูปหัวใจกลับหรือไข่กลับ ผิวขรุขระ กึ่งกลางมีติ่งเล็ก ๆ สีเหลืองเข้ม ด้านบนหยักเป็นร่อง ด้านล่างหยักเป็นเขี้ยว- ฤดูออกดอก เดือนมีนาคม - เดือนมิถุนายน - ลักษณะนิสัย ชอบความชื้นสูง และแสงค่อนข้างมาก เมื่อต้นสมบูรณ์จะให้ดอกและแตกหน่อได้ดี


"กล้วยไม้รองเท้านารี" หรือ Lady's Slipper นั้น มีอยู่ทั่วโลก 4 สกุล 125 ชนิด ประเทศไทยซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกล้วยไม้เขตร้อนที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก มีกล้วยไม้รองเท้านารีพันธุ์ พื้นเมือง ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย สกุล Paphiopedilum ปัจจุบันที่ค้นพบแล้วมีทั้งหมด 17 ชนิด ดังนี้
1. รองเท้านารีคางกบคอแดง
2. รองเท้านารีม่วงสงขลา หรือรองเท้านารีคางกบภาคใต้
3. รองเท้านารีฝาหอย
4. รองเท้านารีคางกบ หรือรองเท้านารีไทยแลนด์
5. รองเท้านารีดอยตุง
6. รองเท้านารีเหลืองปราจีน หรือรองเท้านารีเหลืองกาญจน์หรือรองเท้านารีเหลืองอุดร
7. รองเท้านารีเหลืองกระบี่
8. รองเท้านารีขาวชุมพร
9. รองเท้านารีเหลืองตรัง หรือรองเท้านารีเหลืองพังงา
10. รองเท้านารีเหลืองเลย
11. รองเท้านารีอินซิกเน่
12. รองเท้านารีขาวสตูล
13. รองเท้านารีเมืองกาญจน์ หรือรองเท้านารีเชียงดาว
14. รองเท้านารีปีกแมลงปอ หรือรองเท้านารีสุขะกุล
15. รองเท้านารีอินทนนท์
16. รองเท้านารีช่องอ่างทอง


รูปกระบี่ไขว้ เบื้องหลังมีภูเขา และทะเล

กระบี่ไขว้ หมายถึง อาวุธ หรือดาบโบราณ ซึ่งมีผู้ค้นพบ ในท้องที่จังหวัด จำนวน 2 เล่ม
ภูเขา หมายถึง เขาพนมเบญจา ซึ่งเป็นภูเขาสูงสุดของกระบี่ซับซ้อนกันถึง 5 ยอด
จึงเรียกว่า พนมเบญจา มีเมฆปกคลุมตลอดเวลาและกั้นเขตแดนกับจังหวัดอื่น

“ทุ้งฟ้า” ต้นไม้ และดอกไม้ ประจำจังหวัดกระบี่



คำขวัญประจำจังหวัดกระบี่

กระบี่ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก


คำขวัญการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่

แหล่งถ่านหิน ถิ่นหอยเก่า เขาตระหง่าน ธารสวย
รวยเกาะ เพาะปลูกปาล์ม งามหาดทราย
ใต้ทะเลสวยสด มรกตอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี
วิสัยทัศน์จังหวัดกระบี่

“ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเล เชิงอนุรักษ์และสุขภาพ แหล่งเกษตรอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน บนพื้นฐานของคุณภาพชีวิตและการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ”
ประวัติจังหวัดกระบี่
กระบี่ เป็นจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่า บริเวณเมืองกระบี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ กล่าวกันว่าดินแดนนี้แต่เดิม คือ เมืองบันไทยสมอ 1 ใน 12 เมืองนักษัตร ที่ใช้ตราลิงเป็นตราประจำเมือง ขึ้นกับอาณาจักรนครศรีธรรมราช
จังหวัดกระบี่ ตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในอดีตเป็นเพียงแขวงหนึ่งอยู่ในอำนาจการปกครอง และบังคับบัญชาของเมืองนครศรีธรรมราช เรียกว่า “แขวงเมือง ปกาสัย” พระยาผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช ให้พระปลัดเมืองฯ มาตั้งค่ายทำพะเนียดจับช้าง ในท้องที่ของตำบลปกาสัย และได้มีราษฎรจากเมืองนครศรีธรรมราช อพยพมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากินเพิ่มมากขึ้น พระปลัดเมืองฯ ได้ยกตำบลปกาสัยขึ้นเป็น “แขวงเมืองปกาสัย” ขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช
ประมาณปี พ.ศ. 2415 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองปกาสัย และพระราชทานนามว่า “เมืองกระบี่” เมื่อได้ประกาศตั้งขึ้นเป็นเมืองแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งที่ทำการอยู่ที่ตำบลกระบี่ใหญ่ (บ้านตลาดเก่า) ในท้องที่อำเภอเมืองกระบี่ปัจจุบัน มีหลวงเทพเสนาเป็นเจ้าเมืองกระบี่คนแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2418 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แยกเมืองกระบี่ออกจากการปกครองของเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองจัตวา ขึ้นตรงต่อ กรุงเทพฯ และในปี พ.ศ. 2443 สมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ได้พิจารณา เห็นว่า ศาลากลางที่บ้านตลาดเก่านั้น ไม่สะดวกต่อการคมนาคม เพราะสมัยนั้นต้องอาศัยเรือ เป็นพาหนะ จึงได้ย้ายที่ตั้งเมืองไปอยู่ตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้ปากอ่าวเป็นร่องน้ำลึก เรือใหญ่สามารถเข้าเทียบท่าได้สะดวก ทำให้เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัดจนถึงปัจจุบัน
ความหมายของคำว่า “กระบี่” มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่าชาวบ้านได้ขุดพบมีดโบราณใหญ่เล่มหนึ่ง นำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่ และต่อมาไม่นานก็ขุดพบมีดดาบโบราณเล่มหนึ่ง รูปร่างคล้ายกับมีดดาบโบราณเล่มใหญ่ จึงนำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่เช่นกัน เจ้าเมืองกระบี่เห็นว่าเป็นดาบโบราณ สมควรเก็บไว้เป็นดาบคู่บ้านคู่เมืองเพื่อเป็นสิริมงคล แต่ขณะนั้นยังสร้างเมืองไม่เสร็จ จึงได้นำดาบไปเก็บไว้ในถ้ำเขาขนาบน้ำหน้าเมืองโดยวางดาบหรือกระบี่ไขว้กัน ซึ่งลักษณะการวางดาบ หรือกระบี่ไขว้ เป็นสัญลักษณ์ของตราประจำจังหวัด คือ รูปดาบไขว้ เบื้องหลังมีภูเขาและทะเล โดยบ้านที่ขุดพบดาบใหญ่ได้ตั้งชื่อว่า “บ้านกระบี่ใหญ่” บ้านที่ขุดพบดาบเล็กได้ตั้งชื่อว่า “บ้านกระบี่น้อย” แต่มีอีกตำนานหนึ่ง สันนิษฐานว่า คำว่า “กระบี่” อาจเรียกชื่อตามพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งที่มีมากในท้องถิ่น คือ ต้น “หลุมพี” จึงเรียกชื่อท้องถิ่นว่า “บ้านหลุมพี” ต่อมามีชาวมลายู และชาวจีนที่เข้ามาค้าขายได้เรียกเพี้ยนเป็น “บ้านกะ-ลู-บี” หรือ “คอโลบี” นานๆ เข้าก็ได้ปรับเป็นสำเนียงไทยว่า “กระบี่”
ขนาดและที่ตั้ง
จังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ทางด้านฝั่งทะเลตะวันตกของภาคใต้ ติดกับทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ประมาณ 814 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 4,708.512 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2,942,820 ไร่

อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ติดต่อกับ จังหวัดพังงาและ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทางด้าน อำเภอปลายพระยา และ อำเภอ เขาพนม
ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดตรัง และทะเลอันดามัน
ทางด้านอำเภอเกาะลันตา อำเภอเมืองกระบี่และ
อำเภอเหนือคลอง
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดตรัง
ทางด้าน อำเภอเขาพนม อำเภอคลองท่อม และอำเภอลำทับ
ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดพังงา และทะเลอันดามัน
ทางด้าน อำเภออ่าวลึก และ อำเภอเมืองกระบี่